ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมตัวแทน 7 องค์การคนพิการระดับชาติ ยื่นหนังสือร้องเรียน ชี้แจงข้อเท็จจริง และขอความเป็นธรรม ต่อผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ หลังถูก ส.ส.คนดัง ฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

(วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564) เวลา 10.00 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมตัวแทน 7 องค์การคนพิการระดับชาติ ได้แก่
1. สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย
2. สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม(ไทย)
3. สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย
4. สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
5. สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย
6. สมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย
7. สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย
ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน ชี้แจงข้อเท็จจริง และขอความเป็นธรรม ต่อผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ หลังถูก ส.ส.คนดัง ฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่เมื่อไปตามเรื่องที่โรงพักกลับโยนกันไปมา จนไม่รู้ว่าจะต้องไปตามคดีกับใคร
โดยทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ที่ตนเอง และตัวแทน 7 องค์การคนพิการระดับชาติ มายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.นี้ สืบเนื่องจากตนเอง พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ฯ ได้ถูกนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งต่อมาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทนายอนันต์ชัยฯ พร้อมนายชูศักดิ์ฯ และตัวแทน 7 องค์การคนพิการระดับชาติ ได้ไปติดตามคดี และสอบถามข้อความที่นางสาวปารีณาฯ แจ้งความไว้กับผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพธาราม และพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม แต่ได้รับแจ้งว่า คดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของ สภ.โพธาราม แล้ว ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ได้ส่งสำนวนคดีนี้ให้กับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท) ทำคดีดังกล่าวแล้ว จึงทำให้ตนเอง และนายชูศักดิ์ฯ ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา (ไม่ใช่ผู้ต้องหา) เห็นว่าคดีนี้ น่าจะอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.โพธาราม เพราะพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2560 มาตรา14 จะเห็นได้ว่าการแจ้งความของนางสาวปารีณาฯ ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งทางตนเอง และนายชูศักดิ์ฯ ใช้สิทธิ์โดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (1), (3) ประกอบทั้งนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ เป็น ส.ส. เป็นบุคคลสาธารณะ ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ข้อความดังกล่าวจึงไม่เป็นการหมิ่นประมาท เห็นควรสั่งไม่ฟ้องได้ทันทีไม่ควรเสนอเรื่องให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(บช.สอท.) เป็นผู้ดำเนินคดี เพราะไม่มีหน้าที่โดยตรงอย่างใด โดยตนเอง และนายชูศักดิ์ฯ ก็ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และร้องขอความเป็นธรรม รวมถึงร้องขอให้สอบสวนพยานที่จะให้สอบในเบื้องต้นจำนวน 71 ปาก โดยได้แจ้งชื่อที่อยู่ และจะมีเพิ่มอีกประมาณ 200 ปาก ตามประมวลวิอาญา มาตรา131 ,134 วรรค 2 ,3 ,4
ซึ่งในขณะนี้ ยังรู้สึกสับสนไม่สามารถที่จะเพิ่มเติมพยานได้ เพราะไม่ทราบแน่ชัดว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบทำคดีนี้ และเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ เป็นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ร้องทุกข์ในเขตท้องที่ของตน และอาจใช้อำนาจอันมิชอบเข้าแทรกแซงการทำงานของพนักงานสอบสวน จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม และชี้แจงข้อเท็จจริง มายังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งมอบรายชื่อประชาชนผู้แสดงความคิดเห็นทั้งทางออนไลน์ และรายชื่อของผู้ที่เห็นว่า นางสาวปารีณาฯ บูลลี่(Bully) ออทิสติก ซึ่งเป็นคนพิการ จำนวน 3,106 คน ( 11 แฟ้ม 2 ลัง ) มาเป็นพยานหลักฐานในครั้งนี้ด้วย
โดยมี พ.ต.อ.ธวัชศักดิ์ โปตระนันท์ รอง ผบก.อก.สทส. เวรอำนวยการประจำวัน เป็นผู้รับเรื่อง
Visitors: 203,260